เล็งชง ก.ค.ศ. แก้เกณฑ์ PA สกัดครูผิด′วินัย-อาญา′ขอวิทยฐานะ เสนอ′รองผอ.ดอกจัน′ขอย้ายไม่เกินเขตละ 5คน
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้หารือร่วมกับคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.)วิสามัญเฉพาะกิจเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญตามข้อตกลงในการพัฒนางาน หรือ Performance Agreement (PA) ซึ่งยังมีรายละเอียดที่ยังไม่ลงตัว ตนจึงให้ขออ.ก.ค.ศ.วิสามัญเฉพาะกิจฯ จัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม แต่โดยหลักการยังคงเดิม คือ ลดภาระครูให้ไม่ต้องทำเอกสารจำนวนมากเหมือนที่ผ่านมา ใช้วิธีรวบรวมผลงานและทำรายงานเพียงปีละ 2-3 หน้า เพื่อไม่รบกวนเวลาครูในการจัดการเรียนการสอน ทำให้ครูไม่ต้องทิ้งห้องเรียน ไม่ทิ้งเด็ก และยังทำให้ครูสามารถวางแผนการสอนและทำงานได้ตลอดทั้งปี สำหรับรายละเอียดที่ให้อ.ก.ค.ศ.วิสามัญฯ กลับไปดูเพิ่มเติมและต้องกำหนดให้ชัดเจนมากขึ้น คือคุณสมบัติของครูที่จะขอมีวิทยฐานะ ต้องมีคุณธรรม จริยธรรม มีจรรยาบรรณความเป็นครู รวมถึงจะต้องไม่ถูกลงโทษทางแผ่นดิน ไม่ถูกลงโทษทางจรรยาบรรณจากสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และต้องไม่ถูกลงโทษจากต้นสังกัด
"ที่ผ่านมาแม้จะมีการกำหนดคุณสมบัติของครูที่ขอวิทยฐานะ แต่ไม่มีความชัดเจน จึงขอให้อ.ก.ค.ศ.วิสามัญ ไปดูรายละเอียดให้ครอบคลุม โดยเน้นส่งเสริมความมีคุณธรรมจริยธรรม ตั้งแต่เริ่มเข้ามาเป็นครูและลดปัญหาเรื่องคุณภาพครูด้วย ส่วนการประเมินอื่น ๆ ในรายละเอียดจะเชิญมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เข้ามาช่วยพัฒนาหลักเกณฑ์ให้มีความครอบคลุมมากขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถเสนอให้คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) พิจารณาได้ในเดือนมกราคม 2559" ปลัดศธ.กล่าว
ด้านนางจินตนา มีแสงพราว รองเลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวว่า สำหรับการปรับหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในตำแหน่งผู้บริหารการศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ว1/2558 ในระดับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) และรองผู้อำนวยการสพท. โดยจะเสนอให้ปรับเกณฑ์การขอย้ายในส่วนของรองผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ จากเดิมที่กำหนดตายตัวว่า รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯกลุ่มชั่วคราวและมีเงื่อนไข (รองผู้อำนวยการดอกจัน) ห้ามย้ายลงตำแหน่งรองผู้อำนวยการโครงสร้าง โดยสามารถย้ายสลับกันได้เฉพาะกลุ่มรองผู้อำนวยการดอกจันด้วยกันเองเท่านั้น และอัตราจะถูกยุบตามตัวหลังเกษียณ ก็เปลี่ยนเป็นรองผู้อำนวยการดอกจันสามารถย้ายไปลงตำแหน่งรองผู้อำนวยการโครงสร้างได้ การเสนอแก้ไขหลักเกณฑ์ดังกล่าว ก็เพื่อแก้ปัญหารองผู้อำนวยการดอกจันที่ย้ายไปกระจุกตัวอยู่ในเขตที่ค่อนข้างเจริญโดยเฉพาะในเขต 1 ทำให้เขตที่อยู่ห่างไกล ไม่มีคนเลือกลง แต่การปรับแก้ดังกล่าว อาจจะทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับกลุ่มรองผู้อำนวยการโครงสร้างซึ่งมีอยู่เพียง 3 อัตรา ขณะที่รองผู้อำนวยการดอกจันปัจจุบันมีอยู่เขตละไม่เกิน 10 อัตรา ดังนั้นจะต้องกำหนดด้วยว่าให้ย้ายมาได้ไม่เกินเขตละ 5 อัตรา เพื่อให้กระจายไปยังเขตพื้นที่ฯ อื่นด้วย โดยปัจจุบันมีรองผู้อำนวยการกลุ่มดอกจันเหลืออยู่ประมาณ 1,000 กว่าคน จากเดิมในช่วงปรับโครงสร้าง ศธ. มีอยู่ประมาณ 1,800 คน โดยเร็ว ๆ นี้จะนำเข้าสู่การพิจารณาของอ.ก.ค.ศ.วิสามัญเกี่ยวกับการพัฒนานโยบายและระบบบริหารงานบุคคล ก่อนเสนอให้ก.ค.ศ.พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
"ที่ผ่านมาแม้จะมีการกำหนดคุณสมบัติของครูที่ขอวิทยฐานะ แต่ไม่มีความชัดเจน จึงขอให้อ.ก.ค.ศ.วิสามัญ ไปดูรายละเอียดให้ครอบคลุม โดยเน้นส่งเสริมความมีคุณธรรมจริยธรรม ตั้งแต่เริ่มเข้ามาเป็นครูและลดปัญหาเรื่องคุณภาพครูด้วย ส่วนการประเมินอื่น ๆ ในรายละเอียดจะเชิญมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เข้ามาช่วยพัฒนาหลักเกณฑ์ให้มีความครอบคลุมมากขึ้น โดยคาดว่าจะสามารถเสนอให้คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) พิจารณาได้ในเดือนมกราคม 2559" ปลัดศธ.กล่าว
ด้านนางจินตนา มีแสงพราว รองเลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวว่า สำหรับการปรับหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในตำแหน่งผู้บริหารการศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ว1/2558 ในระดับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.) และรองผู้อำนวยการสพท. โดยจะเสนอให้ปรับเกณฑ์การขอย้ายในส่วนของรองผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯ จากเดิมที่กำหนดตายตัวว่า รองผู้อำนวยการเขตพื้นที่ฯกลุ่มชั่วคราวและมีเงื่อนไข (รองผู้อำนวยการดอกจัน) ห้ามย้ายลงตำแหน่งรองผู้อำนวยการโครงสร้าง โดยสามารถย้ายสลับกันได้เฉพาะกลุ่มรองผู้อำนวยการดอกจันด้วยกันเองเท่านั้น และอัตราจะถูกยุบตามตัวหลังเกษียณ ก็เปลี่ยนเป็นรองผู้อำนวยการดอกจันสามารถย้ายไปลงตำแหน่งรองผู้อำนวยการโครงสร้างได้ การเสนอแก้ไขหลักเกณฑ์ดังกล่าว ก็เพื่อแก้ปัญหารองผู้อำนวยการดอกจันที่ย้ายไปกระจุกตัวอยู่ในเขตที่ค่อนข้างเจริญโดยเฉพาะในเขต 1 ทำให้เขตที่อยู่ห่างไกล ไม่มีคนเลือกลง แต่การปรับแก้ดังกล่าว อาจจะทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับกลุ่มรองผู้อำนวยการโครงสร้างซึ่งมีอยู่เพียง 3 อัตรา ขณะที่รองผู้อำนวยการดอกจันปัจจุบันมีอยู่เขตละไม่เกิน 10 อัตรา ดังนั้นจะต้องกำหนดด้วยว่าให้ย้ายมาได้ไม่เกินเขตละ 5 อัตรา เพื่อให้กระจายไปยังเขตพื้นที่ฯ อื่นด้วย โดยปัจจุบันมีรองผู้อำนวยการกลุ่มดอกจันเหลืออยู่ประมาณ 1,000 กว่าคน จากเดิมในช่วงปรับโครงสร้าง ศธ. มีอยู่ประมาณ 1,800 คน โดยเร็ว ๆ นี้จะนำเข้าสู่การพิจารณาของอ.ก.ค.ศ.วิสามัญเกี่ยวกับการพัฒนานโยบายและระบบบริหารงานบุคคล ก่อนเสนอให้ก.ค.ศ.พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
